สำหรับหลาย ๆ คนอนาคตของการทำงานอาจดูเหมือนเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยงาน ของพวกเขาตกอยู่ภายใต้การคุกคามจากการผสมผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ ของเครื่องจักรระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์ พนักงานไอทีอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างจากที่นี่เล็กน้อย โดยส่วนใหญ่มักจะนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในที่ทำงาน ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงได้รับผลกระทบ เพียงเพราะคุณทำการเปลี่ยนแปลงนั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีภูมิคุ้มกันต่อสิ่งเหล่านี้โดยสิ้น เชิง โดยรวมแล้วมุมมองสำหรับมนุษย์ในอุตสาหกรรมนั้นค่อนข้างเป็นบวก ตามรายงานของ The Future of Jobs ในปี 2020 โดย World Economic Forum (WEF) มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอีก สามปีข้างหน้า มีอะไรบ้างมาดูกันเลย
หุ่นยนต์จะกลายเป็นผู้สร้างงาน
WEF กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงในบทบาทที่ผู้คนแสดงจะหมายถึงช่องว่างของทักษะ ทักษะชั้นนำที่ นายจ้างได้รับการสำรวจเชื่อว่าจะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเมื่อเราเข้าใกล้ปี 2568 ได้แก่ ทักษะการคิดวิ เคราะห์การแก้ปัญหาและการจัดการตนเองเช่นการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นความยืดหยุ่นและความยืดหยุ่นในทำนองเดียวกันความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มีแนวโน้มที่จะ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐคาด การณ์ว่าการจ้างงานนักวิเคราะห์ความ ปลอดภัยของข้อมูลจะเพิ่มขึ้น 31 เปอร์เซ็นต์จากปี 2019 ถึงปี 2029 ซึ่งเร็วกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับทุก อาชีพ แน่นอนว่าบทบาทด้านไอทีบางส่วนจะลดลง ตัวอย่างเช่น ความต้องการสำหรับผู้ที่ยังคง รู้ภาษาโปรแกรมรุ่นเก่าเช่น COBOL และ C มีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างมากเนื่องจาก บริษัท ต่างๆ โยกย้ายระบบเดิมไปยังระบบคลาวด์ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากระบบอัตโนมัติและการเรียนรู้ของ เครื่องมากขึ้น ระบบคลาวด์ยังมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ความต้องการผู้ดูแลระบบแบบเดิมลดลง
งานสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจะเพิ่มมากขึ้น
หากคุณทำงานด้านไอทีและอ่านสิ่งนี้คุณอาจรู้สึกค่อนข้างมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต เเต่ว่า เดี๋ยวก่อน ข่าวดีไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ตามรายงานของ Deloitte The Future of Work In Technology ทีมเทคโนโลยีของ บริษัท จะเปลี่ยนจากการเป็นผู้ให้บริการภายในเป็น “ผู้สร้างร่วมทางธุรกิจ” ซึ่งมูลค่าจะอยู่ที่คุณค่าที่พวกเขามอบให้กับธุรกิจมากกว่าในบริการที่พวกเขามอบให้บทบาทของเทค โนโลยีมีการพัฒนาจากการทำให้ธุรกิจเป็นแบบอัตโนมัติไปสู่การเป็นธุรกิจจริง เราได้เห็นเครื่องจักร เข้ามาทำงานของกล้ามเนื้อมนุษย์ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เราเห็นคอมพิวเตอร์เข้ามาดูแลงาน ประจำ เช่น งานธุรการขั้นพื้นฐานและการจัดเก็บเอกสาร ยิ่งไปกว่านั้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เกือบสอง ศตวรรษที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลให้เกิดการว่างงาน จำนวนมากในทุกอุตสาหกรรมแต่ส่งผลให้ มีงานใหม่เข้ามาแทนที่งานเก่าและงานใหม่เหล่านี้มีแนวโน้ม ที่จะอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าสูงขึ้น น่าสนใจ และสร้างสรรค์มากขึ้น แน่นอนว่าผู้ที่ทำงานด้านไอทีจะต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ
เกิดทักษะใหม่ๆขึ้นในอนาคต
ทักษะงานบางอย่างอาจจะทำให้ มีโอกาสในการหารายได้สำหรับหลายๆคน ร้อยละหกสิบระบุว่านัก ศึกษาจบใหม่ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับโลกแห่งการทำงานอย่างเพียงพอ มีช่องว่างในทักษะทางเทคนิค เช่น ระดับวิชา STEM แต่ยังมีทักษะอื่นๆเเทรก เช่นการสื่อสา การทำงานเป็นทีมและการตรงต่อเวลา อยู่ด้วยเเต่อย่างไรก็ตาม ทักษะที่จะมาช่วยสนับสนุนด้าน IT เเละหุ่นยนต์นั้นก็จะขยายวงกว้างขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์กับโลกอนาคต ทำให้อัตราการว่างงานอาจจะเพิ่มขึ้นเพราะมีสายงานอื่นที่ตอบโจทย์มากกว่าเพราะฉะนั้นควรจะฝึก ทักษะให้มีหลายๆด้านเพื่อจะได้เตรียมพร้อมกับโลกอนาคตเราปฎิเสธไม่ได้ว่าจะมีการเปลี่ยนเเปลงที่จะใช้หุ่นยนต์มาเเทนที่มนุษย์ในการทำงานเเต่หลายๆธุรกิจทั่วโลกบางที่ได้เริ่มนำหุ่นยนต์มาใช้เเล้ว ทั้งเจ้าของธุรกิจเเละพนักงานล้วนต้องเปลี่ยนเเปลงเเละค้นหาเเนวทางในการปรับตัว
ถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนจากการรับรู้ไปสู่ความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการ การจ้างงาน การรักษา พนักงาน หรือ การท้าทายต่างๆที่จะเกิดขึ้น เพราะโอกาสมากกว่า 70%นั้นที่อิทธิพลดังกล่าวจะเกิดขึ้น จริงในโลกมนุษย์ สายงาน ออนไลน์ ดิจิตอล โปรเเกรมเมอร์ IT ต่างๆจะเป็นที่ต้องการมาก ในโลก อนาคตเพราะฉะนั้นหากใครที่รู้เเล้วเตรียมตัวเเละฝึกสกิลเพิ่มเติมนั้นก็จะเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้
